วันพุธที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
ใบงานเรื่อง ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
1. คัดเลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน
โดยทั่วไปเรื่องที่จะนำมาพัฒนาเป็นโครงงานคอมพิวเตอร์ มักจะได้มาจากปัญหา คำถาม หรือความสนใจในเรื่องต่างๆ จากการสังเกตสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ หรือสิ่งต่างๆ รอบตัว ปัญหาที่จะนำมาพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ได้จากแหล่งต่างๆ กัน
2. ศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า
การศึกษาค้นคว้าจากเอกสารและแหล่งข้อมูล ซึ่งรวมถึงการขอคำปรึกษาจากผู้ทรงคุณวุฒิ จะช่วยให้นักเรียนได้แนวคิดที่ใช้ในการกำหนดขอบเขตของเรื่องที่จะศึกษาได้เฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่องที่จะศึกษาจนสามารถใช้ออกแบบและวางแผนดำเนินการทำโครงงานนั้นได้อย่างเหมาะสม ในการศึกษาจะต้องได้คำตอบว่า
1. จะทำ อะไร
2. ทำไมต้องทำ
3. ต้องการให้เกิดอะไร
4. ทำอย่างไร
5. ใช้ทรัพยากรอะไร
6. ทำกับใคร
7. เสนอผลอย่างไร
2. ทำไมต้องทำ
3. ต้องการให้เกิดอะไร
4. ทำอย่างไร
5. ใช้ทรัพยากรอะไร
6. ทำกับใคร
7. เสนอผลอย่างไร
3. องค์ประกอบของเค้าโครงของโครงงาน
4. การลงมือทำโครงงาน
เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
เมื่อเค้าโครงของโครงงานได้รับความเห็นชอบจากอาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ก็เสมือนว่าการจัดทำโครงงานได้ผ่านพ้นไปแล้วมากกว่าครึ่ง ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการลงมือพัฒนาตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ดังนี้
4.1 การเตรียมการ
การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
การเตรียมการ ต้องเตรียมเครื่องคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ และวัสดุอื่นๆ ที่จะใช้ในการพัฒนาให้พร้อมด้วย และควรเตรียมสมุดบันทึกหรือบันทึกเป็นแฟ้มข้อความไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ สำหรับบันทึกการทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่างทำโครงงาน ได้แก่ ได้ปฏิบัติอย่างไร ได้ผลอย่างไร มีปัญหาและแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร รวมทั้งข้อสังเกตต่างๆ ที่พบ
4.2 การลงมือพัฒนา
1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
1. ปฏิบัติตามแผนงานที่วางไว้ในเค้าโครง แต่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมได้ถ้าพบว่าจะช่วยทำให้ผลงานดีขึ้น
2. จัดระบบการทำงานโดยทำส่วนที่เป็นหลักสำคัญๆ ให้แล้วเสร็จก่อน จึงค่่อยทำ ส่วนที่เป็นส่วนประกอบหรือส่วนเสริมเพื่อให้โครงงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น และถ้ามีการแบ่งงานกันทำ ให้ตกลงรายละเอียดในการต่อเชื่อมชิ้นงานที่ชัดเจนด้วย
3. พัฒนาระบบงานด้วยความละเอียดรอบคอบ และบันทึกข้อมูลไว้อย่างเป็นระบบและครบถ้วน
4.3 การทดสอบผลงานและแก้ไข
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
การตรวจสอบความถูกต้องของผลงาน เป็นความจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าผลงานที่พัฒนาขึ้นทำงานได้ถูกต้องตรงกับความต้องการ ที่ระบุไว้ในเป้าหมายและทำด้วยประสิทธิภาพสูงด้วย
4.4 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ
เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
เมื่อพัฒนาผลงานเรียบร้อยแล้ว ให้จัดทำสรุปด้วยข้อความที่สั้นกะทัดรัดอย่างครอบคลุม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงสิ่งที่ค้นพบจากการทำโครงงาน และทำการอภิปรายผลด้วย เพื่อพิจารณาข้อมูลและผลที่ได้ พร้อมกับนำ ไปหาความสัมพันธ์กับหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานที่ผู้อื่นได้ศึกษาไว้แล้ว ทั้งนี้ยังรวมถึงการนำหลักการ ทฤษฎี หรือผลงานของผู้อื่นมาใช้ประกอบการอภิปรายผลที่ได้ด้วย
4.5 แนวทางการพัฒนาโครงงานในอนาคตและข้อเสนอแนะ
เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
เมื่อทำโครงงานเสร็จสิ้นลงแล้ว นักเรียนอาจพบข้อสังเกต ประเด็นที่สำคัญ หรือปัญหา ซึ่งสามารถเขียนเป็นข้อเสนอแนะและสิ่งที่ควรจะศึกษาและหรือใช้ประโยชน์ต่อไปได้
5. การเขียนรายงาน
การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้
การเขียนรายงานเป็นวิธีการสื่อความหมายเพื่อให้ผู้อื่นได้เข้าใจแนวคิด วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า ข้อมูลที่ได้ ตลอดจนข้อสรุปและข้อเสนอแนะต่างๆ เกี่ยวกับโครงงานนั้น ในการเขียนรายงานนักเรียนควรใช้ภาษาที่อ่านง่าย ชัดเจน กระชับ และตรงไปตรงมา ให้ครอบคลุมหัวข้อต่างๆเหล่านี้
5.1 ส่วนนำ
ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้ทำโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงานสำเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ
ส่วนนำ เป็นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานนั้นซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้ทำโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คำขอบคุณ เป็นคำกล่าวขอบคุณบุคคลหรือหน่วยงาน ที่มีส่วนช่วยทำให้โครงงานสำเร็จ
5. บทคัดย่อ อธิบายถึงที่มา ความสำคัญ วัตถุประสงค์ วิธีดำเนินการ และผลที่ได้โดยย่อ
5.2 บทนำ
บทนำเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
3. ขอบเขตของโครงงาน
บทนำเป็นส่วนรายละเอียดของเนื้อหาของโครงงานซึ่งประกอบด้วย
1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
2. เป้าหมายของการศึกษาค้นคว้า
3. ขอบเขตของโครงงาน
5.3 หลักการและทฤษฎี
หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
หลักการและทฤษฎี เป็นส่วนสรุปข้อมูลที่ได้จากการศึกษาหาข้อมูลหรือหลักการ ทฤษฎี หรือวิธีการที่จะนำมาใช้ในการพัฒนาโครงงาน ซึ่งรวมถึงการระบุผลงานของผู้อื่นที่นักเรียนนำมาเปรียบเทียบหรือพัฒนาเพิ่มเติมด้วย
5.4 วิธีดำเนินการ
วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน
วิธีดำเนินการ อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่พบพร้อมทั้งวิธีการที่ใช้แก้ไข พร้อมทั้งระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำงาน
5.5 ผลการศึกษา
ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
ผลการศึกษา นำเสนอข้อมูลหรือระบบที่พัฒนาได้ โดยอาจแสดงเป็นตาราง หรือ กราฟ หรือข้อความ ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความเข้าใจของผู้อ่านเป็นหลัก
5.6 สรุปผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำ งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนำ ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำ โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย
สรุปผลและข้อเสนอแนะ อธิบายผลสรุปที่ได้จากการทำ งาน ถ้ามีการตั้งสมมติฐานควรระบุด้วยว่าข้อมูลที่ได้สนับสนุนหรือคัดค้านสมมติฐานที่ตั้งไว้หรือยังสรุปไม่ได้ นอกจากนั้นยังควรกล่าวถึงการนำ ผลการทดลองหรือพัฒนาไปใช้ประโยชน์ อุปสรรคของการทำโครงงาน หรือข้อสังเกตที่สำคัญ หรือข้อผิดพลาดบางประการที่เกิดขึ้นจากการทำ โครงงานนี้ รวมทั้งข้อเสนอแนะเพื่อการปรับปรุงแก้ไขหากจะมีผู้ศึกษาค้นคว้าในเรื่องทำนองนี้ต่อไปในอนาคตด้วย
5.7 ประโยชน์
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน ระบุประโยชน์ที่นักเรียนได้รับจากการพัฒนาโครงงานนั้น และประโยชน์ที่ผู้ใช้จะได้รับจากการนำผลงานของโครงงานไปใช้ด้วย
5.8 บรรณานุกรม
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทำ โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
บรรณานุกรม รวบรวมรายชื่อหนังสือ วารสาร เอกสาร หรือเว็บไซด์ต่างๆ ที่ผู้ทำ โครงงานใช้ค้นคว้า หรืออ่านเพื่อศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์ในการทำ โครงงานนี้การเขียนเอกสารบรรณานุกรมต้องให้ถูกต้องตามหลักการเขียนด้วย
5.9 การจัดทำคู่มือการใช้งาน
หาโครงงานที่นักเรียนจัดทำ เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำ หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำงานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
หาโครงงานที่นักเรียนจัดทำ เป็นการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา ให้นักเรียนจัดทำคู่มืออธิบายวิธีการใช้ผลงานนั้นโดยละเอียด ซึ่งประกอบด้วย
1. ชื่อผลงาน
2. ความต้องการของระบบคอมพิวเตอร์ ระบุรายละเอียดของคอมพิวเตอร์ที่ต้องมีเพื่อจะใช้ผลงานนั้นได้
3. ความต้องการของซอฟต์แวร์ ระบุรายชื่อซอฟต์แวร์ที่ต้องมีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจะให้ผลงานนั้นทำงานได้อย่างสมบูรณ์
4. คุณลักษณะของผลงาน อธิบายว่าผลงานนั้นทำ หน้าที่อะไรบ้าง รับอะไรเป็นข้อมูลขาเข้าและส่วนอะไรออกมาเป็นข้อมูลขาออก
5. วิธีการใช้งานของแต่ละฟังก์ชัน อธิบายว่าจะต้องกดคำสั่งใด หรือกดปุ่มใด เพื่อให้ผลงานทำงานในฟังก์ชันหนึ่งๆ
6. การนำเสนอและแสดงโครงงาน
การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
5. วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
6. การสาธิตผลงาน
7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน
การนำเสนอและการแสดงผลงานเป็นขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งของการทำโครงงาน เพื่อแสดงออกถึงผลิตผลความคิด ความพยายามในการทำงานที่ผู้ทำโครงงานได้ทุ่มเท และเป็นวิธีทำให้ผู้อื่นได้รับรู้และเข้าใจถึงผลงานนั้น การเสนอผลงานอาจทำได้ในหลายรูปแบบต่างๆ กัน เช่น การแสดงผลงานโดยไม่มีการอธิบายประกอบการรายงานด้วยคำพูดในที่ประชุม การจัดนิทรรศการโดยโปสเตอร์และอธิบายด้วยคำพูด เป็นต้น โดยผลงานที่นำมาเสนอหรือจัดแสดงควรประกอบด้วยสิ่งต่อไปนี้
1. ชื่อโครงงาน
2. ชื่อผู้จัดทำโครงงาน
3. ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา
4. คำอธิบายถึงที่มาและความสำคัญของโครงงาน
5. วิธีการดำเนินการที่สำคัญ
6. การสาธิตผลงาน
7. ผลการสังเกตและข้อสรุปสำคัญที่ได้จากการทำโครงงาน
วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2560
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
ใบงานที่ 2
ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์
1. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หมายถึงอะไร
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หมายถึง คำสั่งหรือชุดคำสั่ง ที่เขียนขึ้นมาเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์
ทำงานตามที่เราต้องการ เราจะให้คอมพิวเตอร์ทำอะไรก็เขียนเป็นคำสั่ง ซึ่งต้องสั่งเป็นขั้นตอนและ
แต่ละขั้นตอนต้องทำอย่างละเอียดและครบถ้วน ซึ่งจะเกิดเป็นงานชิ้นหนึ่งขึ้นมามีชื่อเรียกว่า "โปรแกรม"
2. ประเภทของโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ซอฟต์แวร์จะแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 2 ประเภท คือ
1.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
1.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)
3. ตัวอย่างโปรแกรมคอมพิวเตอร์
3.1 Samsung Odin
เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการ flash firmware ของ Samsung Galaxy โดยภายในโปรแกรมจะมีคำสั่งต่างๆ ที่ใช้ในการ flash เช่น modem, bootloader, csc หรือ PIT file
การใช่้โปรแกรมตัวนี้ควรใช้อย่างระมัดระวัง เพราะเป็นการดัดแปลง แก้ไขไฟล์ระบบ (System App)
หรือระบบ (System) ต่างๆ ซึ่งถ้าไมีมีประสบการณ์ในการใช้ อาจเป็นสาเหตุทำให้เครื่องค้างได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากในการกู้คืนข้อมูล
3.2 Paint Tool SAI
เป็น โปรแกรมวาดรูป จากทีมผู้พัฒนาโปรแกรมจากแดนอาทิตย์อุทัย หรือจาก ประเทศญี่ปุ่น (Japan) มีประวัติการพัฒนามาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 เลยทีเดียว โปรแกรม PaintTool SAI นี้ถูกพัฒนาขึ้นมา เพื่อที่จะให้คุณได้ ปลดปล่อยจินตนาการ ให้คุณได้ปลดปล่อยจินตนาการของคุณออกมาได้ อย่างเต็มที่ หน้าตาของ โปรแกรม PaintTool SAI ก็ใช้งานง่าย ไม่หนักเครื่อง ตัวโปรแกรม PaintTool SAI ทำงานได้เสถียร และภายใน PaintTool SAI ประกอบไปด้วยเครื่องมือสำหรับฝึกวาดภาพ วาดรูป ต่างๆ นานา มากมาย อาทิ AirBrushe PaintBrush เครื่องมือวาดสีน้ำ ดินสอ และยางลบ
โปรแกรม PaintTool SAI ตัวนี้ รองรับการแก้ไขภาพ วาดภาพ ในรูปแบบของลำดับชั้นเลเยอร์ (Layer) ที่จะช่วยให้คุณได้ตกแต่งกราฟฟิกได้อย่างสมจริง และย้อนหลังกลับไปแก้ส่วนประกอบต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้โปรแกรม PaintTool SAI ยังสามารถปรับแต่ง แก้ไขภาพถ่าย รวมถึงงานอาร์ตเวิร์คต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ
3.3 Microsoft Office Word
ไมโครซอฟท์เวิร์ด (Microsoft Word) คือโปรแกรมประเภท word processor ที่ใช้เหมาะสำหรับการพิมพ์รายงาน พิมพ์จดหมาย หรือจะใช้สำหรับแต่งนิยายก็ยังได้ เป็นหนึ่งในโปรแกรม ไมโครซอฟท์ออฟฟิศ ซึ่งมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง หลากหลายเวอร์ชั่น แต่อย่างไรก็ตาม โดยหลักการ ถ้าเราศึกษาไมโครซอฟท์เวิร์ดเวอร์ชั่นใดเวอร์ชั่นหนึ่ง เราก็จะสามารถเรียนรู้เวอร์ชั่นอื่นๆ ได้ค่อนข้างง่าย เพราะส่วนใหญ่เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็จะการเปลี่ยนแปลงในลักษณะเพิ่มเติมเสียมากกว่าการลบออกไป
วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
C หรือ C Language (ภาษาซี) คือ ซึ่งเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรมทั่วไป ถูกพัฒนาโดยเดนนิส ริสชี่ (Dennis Ritchie) เมื่อประมาณต้นปีค.ศ. 1970 เพื่อใช้งานบนระบบปฏิบัติการยูนิกส์ แทนภาษาแอสเซมบลี ซึ่งเป็นภาษาระดับต่ำที่สามารถกระทำในระบบฮาร์ดแวร์ได้ด้วยความรวดเร็ว แต่จุดอ่อนของภาษาแอซเซมบลีก็คือความยุ่งยากในการโปรแกรม ความเป็นเฉพาะตัว และความแตกต่างกันไปในแต่ละเครื่อง ต่อมาถูกนำไปใช้ในระบบปฏิบัติการต่าง ๆ จนถูกใช้เป็นภาษาพื้นฐานสำหรับภาษาอื่น เช่น ภาษาจาวา Java ภาษาพีเอชพี (PHP) ภาษาซีชาร์ป C# ภาษาซีพลัสพลัส C++ ภาษาเพิร์ล (Perl) ภาษาไพทอล (Python) หรือภาษารูบี้ (Ruby) ภาษาซีเป็นภาษาเขียนโปรแกรมระบบเชิงคำสั่ง (หรือเชิงกระบวนงาน) ถูกออกแบบขึ้นเพื่อใช้แปลด้วยตัวแปลโปรแกรมแบบการเชื่อมโยงที่ตรงไปตรงมา สามารถเข้าถึงหน่วยความจำในระดับล่าง ภาษา C แม้จะเป็นภาษาระดับสูง แต่ก็สามารถใช้เป็นภาษาเครื่องได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างโครงสร้างเบื้องต้น
การเขียนโปรแกรมไม่ว่าจะเป็นภาษาใดก็ตาม ก็จะมีโครงสร้างของตัวภาษาอยู่ภาษาซีก็เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักๆ คือ ส่วนหัว(Header) ส่วนประกาศตัวแปร(Declaration) และส่วนคำสั่ง(Body)

ส่วนที่ 1 ส่วนหัว (header)
ส่วนหัวเป็นส่วนที่ระบุซีคอมไพเลอร์เตรียมการทำงานที่กำหนดในส่วนนี้ไว้ โดยหน้าคำสั่งจะมีเครื่องหมาย # ตัวอย่าง
# include <stdio.h>
หมายถึง เป็นการระบุให้นำไฟล์ stdio.h มารวมกับไฟล์นี้ เพื่อที่จะสามารถใช้คำสั่งที่อยู่ในไฟล์นี้มาใช้งานได้
# define START 0
หมายถึง เป็นการกำหนดค่าคงที่ให้กับตัวแปร START โดยให้มีค่าเป็น 0
# define temp 37
หมายถึง เป็นการกำหนดให้ตัวแปร temp มีค่าเท่ากับ 37
ส่วนที่ 2 ประกาศตัวแปร (Declaration)
ส่วนประกาศตัวแปร เป็นการกำหนดชนิดข้อมูลที่จะใช้ในโปรแกรม ซึ่งตัวแปร หรือข้อมูลต่างๆนั้นจะถูกประกาศ(Declare) ในส่วนนี้ก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในโปรแกรมได้ดังตัวอย่าง
int stdno;
หมายถึง เป็นตัวกำหนดว่าตัวแปร stdno เป็นชนิดข้อมูลจำนวนเต็ม integer ซึ่งอาจได้แก่ค่า 0,4,-1,-3,...เป็นต้น
float score;
หมายถึง เป็นการกำหนดว่าตัวแปร score เป็นข้อมูลชนิดเลขมีจุดทศนิยม(floating point) ซึ่งอาจมีค่า 0.23, 1.34, -21.002,….เป็นต้น
ส่วนที่ 3 ส่วนตัวคำสั่ง (Boddy)
ส่วนตัวคำสั่ง คือส่วนของโปรแกรม โดยจะต้องเริ่มต้นด้วยฟังก์ชัน main () แล้วใส่เครื่องหมายกำหนดขอบเขตเริ่มต้นของตัวโปรแกรมคือ { หลังจากนั้นใส่คำสั่งหรือฟังก์ชันต่างๆโดยแต่ล่ะคำสั่งหรือฟังก์ชันนั้นๆ จะต้องปิดด้วยเครื่องหมาย ; เมื่อต้องการจบโปรแกรมให้ใส่เครื่องหมาย } ดังตัวอย่าง
main ()
{ /*เริ่มต้นโปรแกรม*/
คำสั่งต่างๆ ;
ฟังก์ชั่น ;
....................
.....................
}/*จบโปรแกรม*/

ตัวอย่างโปรแกรม
http://www.pkmaths.com/webboard/index.php?PHPSESSID=5d4364bcb710c1312e6d90fd225401b1&topic=339.0
http://www.pkmaths.com/webboard/index.php?PHPSESSID=5d4364bcb710c1312e6d90fd225401b1&topic=171.0
ที่มา
http://www.pkmaths.com/webboard/index.php?board=8.0
วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
วิธีการเชื่อมต่อเน็ตคอมด้วย bluetooth
วิธีการเชื่อมต่อเน็ตคอมด้วย bluetooth
อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
1. Smartphone ที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และ Modem ในตัว
2. Bluetooth USB port 1 อัน
3. PC ที่มีระบบปฏิบัติการ Windows XP ขึ้นไป 1 เครื่อง
ขั้นตอนวิธีการเชื่อม
1. ให้เปิด Bluetooth ที่โทรศัพท์มือถือของเราก่อน แล้วให้ต่อ Bluetooth USB Port เข้ากับคอมพิวเตอร์ จากนั้นจะมี icon ของ Bluetooth สีน้ำเงินขึ้นมา จากนั้นให้คลิกขวาที่ icon นั้นขึ้นมา เลือก Add a Bluetooth Device
2. เมื่อเลือก Add a Bluetooth Device ขึ้นมาแล้ว จะมีหน้าจอดังแสดงในรูปที่ 2 ให้ใส่เครื่องหมายถูกลงในช่องสี่เหลี่ยม จากนั้นกด Next เพื่อค้นหาอุปกรณ์ Bluetooth อื่นๆ
3. หลังจากกดปุ่ม “Next” ตามรูปที่2 แล้วจะเป็นการค้นหาอุปกรณ์ Bluetooth ต่างๆ ขึ้นมา จากนั้นให้เลือกที่โทรศัพท์เครื่องที่ต้องการจะใช้เป็น Modem ในที่นี้ผมจะเชื่อมต่อกับ Nokia 3230 แล้วกด Next เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
4. ขั้นตอนต่อมา ให้เราเลือกที่ Choose a passkey for me เพื่อกำหนด passkey ของโทรศัพท์มือถือ จากนั้นให้กด Next
5. ให้ใส่ Passkey หรือตัวเลขที่ได้ลงในโทรศัพท์มือถือของเราแล้วกด OK
6. เมื่อใส่ Passkey เสร็จเรียบร้อยแล้ว ที่คอมพิวเตอร์จะแสดงขึ้นมาว่า Found new Hardware นั่นคือคอมพิวเตอร์ได้เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว ให้กด Finish เพื่อสิ้นสุดขั้นตอนการตั้งค่าเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ กับโทรศัพท์มือถือ
7. ขั้นตอนถัดมา ให้เราเลือกไปที่ Bluetooth ในโฟลเดอร์ Connectivity ของโทรศัพท์มือถือ เข้าไปที่ Pair Devices กด Options เลือก Set as authorised จากนั้นเครื่องจะถามว่า การเชื่อมต่อในครั้งต่อไปกับคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ จะติดต่อกันเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องยืนยันการเชื่อต่อ ในที่นี้ให้เลือก Yes
8. หลังจากที่เชื่อมต่อ Bluetooth กับคอมพิวเตอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่ Control Panel เลือก Network Connections แล้วกดที่ File เลือก New Connection... เพื่อสร้างการเชื่อมต่อชุดใหม่ขึ้นมา
9. เมื่อกด New Connection… ขึ้นมาแล้ว ขั้นตอนถัดมาจะเป็นการตั้งค่าต่างๆ ในหน้าจอนี้ให้กด Next>
10. หลังจากนั้น Connection Wizard จะถามว่า ต้องการจะใช้การเชื่อมต่อแบบไหน ให้เราเลือกไปที่ Connect to the Internet แล้วกด Next>
11. ถัดมา จะเป็นการเลือกรูปแบบการตั้งค่า ในที่นี้ให้เลือกแบบการตั้งค่าด้วยตนเอง ในที่นี้ให้เลือกไปที่ Set up my connection manually แล้วกด Next> เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
12. ถัดมา ทางโปรแกรมจะถามว่า ต้องการตั้งค่าการใช้งาน Internet แบบใด ให้เลือกไปที่ Connect using a dial-up modem แล้วกด Next> เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
13. หลังจากที่เลือกรูปแบบการใช้งาน Internet ผ่าน Modem เรียบร้อยแล้ว ให้ใส่ชื่อของการเชื่อมต่อนั้น โดยใส่ชื่ออะไรไปก็ได้ ให้จำได้ง่าย จากนั้นกด Next>
14. ขั้นตอนถัดมา จะเป็นการใส่เบอร์โทรศัพท์ที่ใช้เชื่อมต่อกับ Internet โดยส่วนนี้ เครือข่ายหลังของโทรศัพท์มือถือที่รองรับ GPRS นั้น (AIS, DTAC และ Orange) ให้ใส่หมายเลข ดังนี้
*99***1# หรือ *99***# หรือ *99# โดยที่สลับกันได้ได้หมดทุกหมายเลข ทุกเครือข่าย จากนั้นให้กด Next> เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
15. ในส่วนนี้ ทางเครือข่าย AIS และ DTAC ไม่ต้องใส่ค่าใดๆ ลงไป แต่เครือข่าย Orange นั้น ให้ใส่คำว่า orange (ใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเล็กทั้งหมด) ลงไปทั้ง 3 ช่อง จากนั้นให้กด Next> เพื่อยืนยันการตั้งค่า
16. หลังจากนั้น ให้ทำเครื่องหมายถูกด้านหน้าช่อง Add a shortcut to this connection to my desktop เพื่อให้มี Icon ของการเชื่อมต่อแสดงขึ้นมาบนหน้าจอ Desktop ได้ หรือถ้าไม่ทำเครื่องหมายถูกด้านหน้า จะไม่มี Icon แสดงขึ้นมา จากนั้นให้กด Finish เป็นอันสิ้นสุดการตั้งค่า Modem ของการเชื่อมต่อ Internet
17. ตั้งค่า DNS Server
เมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างดังรูปที่ 25 แสดงขึ้นมา ให้กดเข้าไปที่ Properties แล้วเลือกไปที่แถบ Networking จากนั้นให้เลื่อนแถบสีน้ำเงินไปยัง Internet Protocol (TCP/IP) แล้วกด Properties ขึ้นมา ที่แถบด้านบนให้เลือกไปยัง “Obtain an IP address automatically” ล้านล่างนั้น จะต่างกัน โดยที่สำหรับเครือข่ายของ AIS และ Orange ให้เลือกไปที่ “Obtain DNS server address automatically” ส่วนของ DTAC นั้นให้เลือกที่ “Use the following DNS server addresses:” แล้วป้อนค่าลงไปดังแสดงในรูปที่ 27 จากนั้นให้กด OK เพื่อยืนยันการตั้งค่า
18. ขั้นตอนสุดท้าย จะเป็นการตั้งค่าเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ โดยให้เข้าไปที่ Control Panel อีกรอบ เลือกที่ Icon ของ Phone and Modem Options ขึ้นมา แล้วกด New… ในกรณีที่ยังไม่มีการตั้งค่าก่อนหน้านี้ หรือกด Edit… เพื่อแก้ไขค่าเดิม โดยที่ช่องด้านบนให้ใส่ชื่อที่จำได้ง่าย เลือก Country/region เป็น Thailand ส่วน Area Code เป็นอะไรก็ได้ และเบอร์โทรศัพท์นั้น ให้เป็นเบอร์เดียวกันกับรูปที่ 21 ที่ใส่ลงไป แล้วกด OK ออกมา
19. หลังจากที่กด OK ออกมาจากการตั้งค่าในส่วนของ Edit Location แล้ว ให้กดที่แถบ Modems ด้านบน จากนั้นเลือกไปที่ Standard Modem over Bluetooth link อันที่มี Port แสดงขึ้นมา ดังตัวอย่างในรูปที่ 31 นั้นจะมี Port COM18 แสดงขึ้นมา ให้เลือกที่อันนั้น แล้วกด Properties เลื่อนไปยังแถบ Advanced ในช่องของ Extra initialization commands: ให้ใส่ดังนี้
สำหรับเครือข่าย AIS ให้ใส่ว่า +cgdcont=1,"IP","internet"
สำหรับเครือข่าย DTAC ให้ใส่ว่า at+cgdcont=1,"IP",www.dtac.co.th
สำหรับเครือข่าย Orange ให้ใส่ว่า +cgdcont=1,"IP","internet"
แล้วกด OK ออกมาเพื่อยืนยันการตั้งค่าต่างๆ เป็นอันเสร็จสิ้น
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=XiZ_eWO9_3w
http://oknation.nationtv.tv/blog/arm203/2007/11/21/entry-1
วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2560
Nextbit Robin สมาร์ทโฟนที่หน่วยความจำไม่มีวันเต็ม
Nextbit Robin ถือกำเนิดมาจากการรวมกลุ่มกันของอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือที่เคยทำงานร่วมกับ Google มาก่อน และต้องการพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่สามารถรองรับข้อมูลได้มากกว่าเดิม ซึ่งก็จำเป็นต้องมีหน่วยความจำที่เพิ่มมากขึ้น จึงกลายมาเป็น Nextbit Robin สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรม Cloud-First ที่จะซิงค์ข้อมูลทุกอย่างในเครื่องเก็บไว้บนระบบคลาวด์ทั้งหมด นอกจากนี้ตัว Nextbit OS ยังสามารถเรียนรู้การใช้งานแอปพลิเคชันได้ว่า หากแอปพลิเคชันใดที่ผู้ใช้ใช้งานไม่บ่อยนัก ตัวระบบก็จะลบแอปพลิเคชันออกจากหน่วยความจำของตัวเครื่อง และเก็บไว้บนคลาวด์ พร้อมเปลี่ยนไอคอนเป็นสีเทา แต่ถ้าผู้ใช้ต้องการใช้งาน ก็เพียงกดที่ไอคอนสีเทานั้น ระบบก็จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชันกลับมาให้ใช้งานตามเดิมในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)